มวยไทย ถือเป็นศิลปวัฒนธรรมประจำชาติไทย ที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน จนกระทั่งปัจจุบันกลายเป็น “ซอฟต์ เพาเวอร์” ที่สำคัญของประเทศ และยังเป็น “กีฬา” ที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก และกำลังอยู่ในเส้นทางมุ่งหน้าเข้าสู่มหกรรมกีฬาโอลิมปิก ซึ่งทางภาครัฐ และทุกภาคส่วน ต่างผนึกกำลังร่วมกันผลักดันกันอย่างเต็มที่
ล่าสุด กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ร่วมกับ United Through Sports (UTS) จัดกิจกรรม “World Youth Festival Bangkok 2022” (เวิลด์ ยูธ เฟสติวัล แบงค็อก 2022) ซึ่งได้นำมวยไทยเข้าไปเผยแพร่ให้ยุวทูตเยาวชนทั่วโลก ที่ร่วมเข้าแคมป์แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกีฬา และการศึกษา ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ประสานมิตร กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 14-19 พฤศจิกายน 2565
ไฮไลต์อยู่ที่การจัดงานไหว้ครูมวย โครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย เพื่อเผยแพร่กีฬา “มวยไทย” และผลักดันเข้าสู่มหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โดยมี “ดร.หญิง” ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) พร้อมด้วย มร.สเตฟาน ฟ็อกซ์ ประธาน United Through Sports (UTS) และ ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ ประธานสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ (IFMA) ร่วมจัดกิจกรรมให้กับเยาวชนตบเท้าเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก
ดร.สุปราณี คุปตาสา เปิดเผยว่า กิจกรรมเกี่ยวกับมวยไทยที่เป็นซอฟต์ เพาเวอร์ คนจะเข้าใจว่าเป็นแค่เรื่องการชกมวยไทย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้มวยไทยเป็นศิลปวัฒนธรรมประจำชาติ เพราะมีเรื่องการไหว้ครูมวย รวมถึงเรื่องแม่ไม้มวยไทย ลูกไม้มวยไทย และชกมวยไทย ดังนั้น กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย จึงส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมมวยไทยของเราอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งเติบโตมาเป็นนักมวยต่อไป
“ส่วนตัวรู้สึกดีใจมากๆ ที่ได้เห็นน้องๆ ทั้งเด็กไทย และต่างประเทศ ที่รักมวยไทย มาร่วมกันเรียนรู้ศิลปะแม่ไม้มวยไทย และมีคุณครูที่มาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ เพื่อสืบสานต่อไปให้กับน้องๆ ในนามของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่สนับสนุน และส่งเสริมมวยไทยให้กับเด็ก และเยาวชน เพื่อคงไว้ซึ่งมรดกโลกของชาติไทย ก็ดีใจที่งานไหว้ครูมวยประสบความสำเร็จ”
ขณะเดียวกัน “มวยไทย” ยังช่วยในการสานสัมพันธ์กับประเทศซาอุดีอาระเบียด้วย โดย ดร.สุปราณี เผยว่า เจ้าชาย ฟาฮัด บิน มันซูร บิน ซาอัด บิน ซาอุด ในฐานะประธานมวยไทยแห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงโปรดกีฬามวยไทยมาก และไทยเราได้สานสัมพันธ์มาอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมนำครูมวยไทย ซึ่งมีความรู้เรื่องการไหว้ครูอย่างแท้จริงไปถ่ายทอด เพื่อสร้างการรับรู้ถึงวัฒนธรรมมวยไทย และเผยแพร่การไหว้มวยไทย แม่ไม้มวย การชกที่ถูกต้อง และการสอนเด็กเยาวชนตั้งแต่เล็กๆ แบบต้นฉบับแท้จริง“
ดร.หญิง” กล่าวอีกว่า ต้องขอบคุณทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. ซึ่งร่วมกันสนับสนุนการขับเคลื่อนกีฬามวยไทยทุกเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในกิจกรรมครั้งนี้ รวมทั้ง สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ และสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย ตลอดจน สหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ และองค์กรอื่นๆ ที่ให้ความร่วมมือกับการพัฒนามวยไทยไปสู่โอลิมปิก
สำหรับแนวทางการผลักดัน “มวยไทย” ในเส้นท้างไปสู่ “โอลิมปิก” สิ่งสำคัญที่สุดจะต้องทำให้มวยไทยมีภาพพจน์ความเป็นกีฬาที่ชัดเจน กล่าวคือมีการให้คะแนนที่ถูกต้อง มีกฎระเบียบชัดเจน ไม่ว่าต่างชาติ หรือคนไทยดูกีฬามวยไทย ก็สามารถดูออกได้ว่านักมวยฝ่ายไหนมีโอกาสแพ้ หรือชนะ การตัดสินเป็นอย่างไร โดยกองทุนฯ ได้มุ่งส่งเสริมให้เกิดเป็นรูปธรรม ด้วยจัดกิจกรรมต่างๆ ให้มีการตัดสินที่ชัดเจน มีการตรวจร่างกายนักกีฬา เพราะอยากแสดงให้เห็นว่ามวยไทยไม่ใช่ความรุนแรง แต่เป็นศิลปะการป้องกันตัว และศิลปะการต่อสู้ที่อันตรายที่สุด แต่มีระบบความปลอดภัยกำกับอยู่ ให้ได้รับการยอมรับ
อีกทั้งมวยไทย จะต้องแก้ภาพลักษณ์ว่าเป็นกีฬาที่ทำร้ายเด็กเยาวชน โดยทางกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย และรัฐบาล ในการดำเนินการเรื่องการไม่ยอมให้เด็กเล็กๆ ต่อยมวยไทยกัน เพื่อการพนัน หรือเพื่อหารายได้ ดังนั้นเราจะต้องหาวิธีการ เพราะฉะนั้นต่อไปนี้เราจะสนับสนุนกิจกรรมมวยไทยของเด็กโดยมีเครื่องป้องกัน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี)
“มวยไทย” ถือเป็นศิลปวัฒธรรมประจำชาติที่ช่วยสร้างคุณค่าให้กับประเทศได้อย่างแท้จริง ทั้งการเป็นซอฟต์ เพาเวอร์ ช่วยสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจ รวมทั้งการเป็นกีฬาที่โด่งดังไปทั่วโลก และกำลังมุ่งหน้าไปสู่มหกรรมกีฬาโอลิมปิก และยังเป็นตัวกลางในการสานสัมพันธ์อันดีกับนานาชาติ
สนใจแทงมวยออนไลน์ติดต่อได้ที่ LINE: @UFA-TH หรือ https://line.me/ti/p/@ufa-th
ติดตามข่าวสารวงการมวยได้ที่ muay-th.com