ประวัตินักมวยปล่อง จำนงทอง หรือ หมื่นมวยมีชื่อ ตำนานที่คนไทยอยากรู้จัก

ประวัตินักมวยปล่อง

ประวัตินักมวยปล่อง จำนงทอง หรือที่มีฉายาว่า หมื่นมวยมีชื่อ เป็นลูกศิษย์ของ เจ้าเมืองไชยา เมื่อครั้งหัวเมืองขึ้นกับกระทรวงกลาโหม คือพระยาวัยวุฒิวิเศษฤทธิ์ ซึ่งในเวลาต่อๆมาได้ถูกเลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น พระยาวจีสัตยารักษ์ เป็นนักมวยที่มีชื่อเสียงในสมัยรัชกาลที่ 5 จนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ ซึ่งเรื่องราวนี้ จะน่าติดตามมากขนาดไหน เราไปติดตามกันเลย

ประวัตินักมวยปล่อง จำนงทอง ในอดีตเป็นคนบ้านหัววัว ตำบลเลม็ดโดยกำเนิด ลักษณะเด่นของท่านเป็นคนสันทัดคน หน้ากว้าง คางเรียว จมูกแหลมงุ้ม ผมหยักศกเล็กน้อย แผงอกใหญ่ แขนใหญ่ ข้อมือเล็ก น่องเล็ก ผิวค่อนไปข้างขาว แต่มีตบะน่าเกรงขาม ไม่ดุแต่คนกลัว ดูรูปร่างแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคนที่มีความรวดเร็วและว่องไว เพราะการฝึกหัดศิษย์ท่านมีความรวดเร็วเหนือลักษณะรูปร่างเป็นอันมาก ไม่ว่าลูกศิษย์จะทำอะไรลูกไม้มวยแบบไหน ท่านสามารถที่จะปิดป้องได้จนหมดสิ้น

ซึ่งในเวลาต่อมา นายปล่อง จำนงทอง ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าจากสมเด็จพระปิยะมหาราช รัชกาลที่ 5 ให้เป็น หมื่นมวยมีชื่อ สืบเนื่องจาก เป็นผู้พิชิตมวยฝีมือดี ลูกศิษย์พระเหมสมาหาร เจ้าเมืองโคราช โดยทำการต่อสู้ กันในงานเมรุกรมขุนมรุพงษ์ศิริพัฒน์ ณ ท้องทุ่งสุเมรุด้านใกล้ๆกับป้อมเผด็จดัสกร ก็โปรดเกล้าฯ ให้นักมวยฝีไม้ลายมือดีชกชนะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ (ข้าราชการชั้นประทวน)

ซึ่งทางด้าน หมื่นมวยมีชื่อ เองก็) เป็นนักมวยจากไชยา และทางด้าน หมื่นมือแม่นหมัด ” แห่งบ้านทะเลชุบศร จังหวัดลพบุรี กับอีกผู้หนึ่งได้เป็น หมื่นชงัดเชิงชก (แดง ไทยประเสริฐ) แห่งเมืองโคราช หรือนครราชสีมา ข้าราชการชั้นประทวนทั้งสามท่านนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯไม่ต้องเสียส่วยสาอากร แม้กระทั่งทำความผิดก็ให้กรมการบ้านเมืองพิจารณาลดหย่อนผ่อนโทษ ตามสมควร นับเป็นความภูมิใจของคนทั้งเมืองไชยาและลูกหลานของตระกูล จำนงค์ทอง ที่นายปลอง จำนงค์ทอง ได้เป็นตัวแทนของคนไชยาและได้นำเกียรติประวัติอันสูงส่งมาสู่เมืองไชยา

จากความเป็นคนสู้คน กรรมการและพรรคพวกบอกให้ยอมแพ้ แต่ท่านคิดว่าถ้าแพ้ขอตายหน้าพระที่นั่ง จนการต่อสู้จบลงด้วยชัยชนะ และจากการต่อสู้ครั้งนี้เอง ที่ทำให้ท่านเป็นรอยเขียวช้ำจนตลอดชีวิต แม้ตอนที่เสียชีวิตรอยเขียวช้ำนั้นจะจางหายไปบ้างแล้วก็ตามนอกจาการต่อสู้ในครั้งนั้นแล้วมีอยู่ครั้งหนึ่งคือ ตอนที่ท่านนำนักมวยไปชกในงานรับเสด็จรัชกาลที่ 6 ที่บนควนท่าข้าม อำเภอพุนพิน ตอนขากลับท่านได้รับอุบัติเหตุคือ เรือใบถูกลมพัดจัด เสาใบหักลงตีศีรษะของท่านเป็นรอยบุ๋มทุกคนในเรือคิดว่าท่านศีรษะต้องแตก แต่เมื่อท่านเปิดมือที่กุมหัวให้ดู ทุกคนก็เห็นว่าไม่มีเลือดไหลออกมาเลย นอกจากจะเห็นศีรษะของท่านเป็นรอยบุ๋มลง และจากอุบัติเหตุครั้งนี้เองที่ทำให้ท่านกลายเป็นคนที่หูค่อนข้างตึงไปเล็กน้อย ซึ่งหลังจากนั้นก็มีการกล่าวกันว่า ท่านเป็นคนหนังเหนียวมีวิชา

จุดเริ่มต้นการฝึกมวยไทย

ให้นักเรียนฝึกชกมวย พวกคุณส่วนใหญ่จะนั่งดูและจะแนะนำนอกจากไม่พอใจว่าคุณจะลงมาสวมถุงมือซ้อม แต่แทบไม่มีใครกล้าฝึกกับเขาเลย เพราะการซ้อมกับคุณต้องเป็นที่ที่คุณจะแสดงให้คุณเห็นถึงวิธีจัดการกับลูกไม้ชกมวยแต่ละอันและการโจมตี เพราะคุณเป็นผู้ชายที่เข้าออกสนามรบได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งการชกมวยซ้ายและขวา นักเรียนของคุณจะต้องสามารถเข้าร่วมการแข่งขันชกมวยทั้งสองฝ่ายได้ ถ้ามีใครเข้ามวยข้างเดียว

ส่วนใหญ่จะได้รับการฝึกเป็นพิเศษ จนบางครั้งต้องเป็นอันตรายก็มี เช่น นายนุ้ย อักษรชื่น เป็นแผลเป็นที่หน้าแข้งยาว เกือบ 2 นิ้วมาจนทุกวันนี้ นายรับ เมืองคล้ายหน้าแข้งยังบวมปูดอยู่จนทุกวันนี้ ก็เพราะลูก ฉัด (การใช้นิ้วเท้าเตะไปที่หน้าแข้ง) จากการฝึกหัดที่อาจจะเจ็บตัวกว่าการที่ชกจริง ทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าลงนวมซ้อมกับท่าน

ครั้งหนึ่งไม่พอใจกับการฝึกฝนของเขา เขาลงไปฝึกซ้อมภายใต้ถุงมือ และดูเหมือนว่าหลานชายของเขาต้องกระโดดลงไปในน้ำโดยสวมถุงมือ แต่เป็นคุณเบส ลูกสาวคนโตของเขาที่ดูแลการฝึกในขณะที่คุณไม่อยู่ แม้ว่าลูกๆ ของเขาส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงก็ตาม แต่เขายังฝึกมวยสำหรับเด็กที่สนใจ เช่น นางบาธ และนางปรางค์

สนใจแทงมวยออนไลน์ติดต่อได้ที่ LINE: @UFA-TH หรือ https://line.me/ti/p/@UFA-TH

ติดตามข่าวสารวงการมวยได้ที่ muay-th.com