ประวัติน่ารู้ การกลับมาขึ้นชกบนเวทีมวยราชดำเนินอีกครั้งของ บัวขาว บัญชาเมฆ ซูเปอร์สตาร์มวยของเมืองไทย ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ มีคิวขึ้นชกกับ โคตะ มิอูระ นักชกหนุ่มสุดฮอตจากแดนปลาดิบ ในรายการศึก KAT Presents Legend of Rajadamnern: Buakaw vs. Kota
ประวัติน่ารู้ น้อยคนนักจะเคยได้เห็น บัวขาว ขึ้นชกบนเวทีราชดำเนิน ก่อนจะถึงวันนั้นมารู้จักเรื่องราวของเขาให้มากขึ้นผ่าน 5 เรื่องราวต่อไปนี้
มวยรองที่ลุมพินี
ในบรรดาพี่น้อง 5 คน บัวขาว เป็นบุตรคนที่ 4 ของครอบครัวบัญชาเมฆ เขาเริ่มชกมวยไทยตั้งแต่ 8 ขวบอยู่ที่จังหวัดสุรินทร์บ้านเกิด กระทั่ง 7 ปีต่อมา บัวขาว ได้เข้ามาเป็นนักมวยของ “กำนันแก๊” ประมุข โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่ายมวย ป.ประมุข ทำให้เขามีโอกาสได้ขึ้นชกในศึกวันทรงชัยที่เวทีลุมพินี พระราม 4
ในรั้วลุมพินี บัวขาว ยังเป็นเพียงนักมวยหน้าใหม่ ไม่มีชื่อเสียงโด่งดังมากนัก มีจุดเด่นคือความแข็งแรงและความใจสู้ แต่จุดอ่อนก็ยังมีให้แก้อีกมาก โดยเฉพาะเหลี่ยมมวยที่ยังไม่ถึงขั้นและทำให้เขาแพ้อยู่บ่อยครั้ง
เปิดตัวเหมือนฝัน แต่ไม่ดัง
อย่างไรก็ตามด้วยความที่ไม่ใช่มวยดังทำให้เขาโปรโมเตอร์เจ้าอื่นขอบัวขาวไปชกข้ามรายการอยู่เป็นประจำ และนั่นเองที่ทำให้เขาได้มีโอกาสขึ้นชกบนเวทีดังระดับตำนาน
ไฟต์เปิดตัวของบัวขาวที่ราชดำเนิน เกิดขึ้นในวันที่ 29 พฤษภาคม 2543 โดยพบกับ เวหาสน์ ลูกพระบาท ด้วยความที่เป็นมวยใหม่เหมือนกัน ทำให้บัวขาวที่แข็งแรงกว่า ฟันศอกเอาชนะน็อกไปได้ในยกที่ 4
แม้จะเปิดตัวได้สวย และมีโอกาสได้ต่อยบนเวทีราชดำเนินอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขามีชื่อเสียงมากขึ้นแต่อย่างใด ในขณะเดียวกัน บัวขาว ตระเวนชกไปอีกหลายเวที แต่ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดก็คือเวทีมวยสยามอ้อมน้อยที่เขาสามารถคว้าแชมป์รุ่นเฟเธอร์เวท 135 ปอนด์และแชมป์รุ่นไลท์เวท 126 ปอนด์ของเวทีสยามอ้อมน้อย รวมไปถึงคว้าแชมป์มวยรอบมาราธอน ที่เวทีมวยลุมพินี ในรุ่น 140 ปอนด์ เมื่อปี 2002
ขณะที่ไฟต์สั่งลาราชดำเนินมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม 2547 บัวขาว ต่อน้ำหนักให้กับ มั่นคง เกียรติสมควร ชกในพิกัด 138/140 ปอนด์ ก่อนจะเอาชนะคะแนนไปได้แบบไม่ยาก
ดำ ดอทคอม โกอินเตอร์
การชกที่เวทีสยามอ้อมน้อยทำให้บัวขาวได้ออกโทรทัศน์อยู่บ่อยครั้ง บวกกับการได้แชมป์ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมกาขึ้น หลังจากได้แชมป์มวยรอบเมื่อปี 2002 บัวขาวถูกทาบทามจากโปรโมเตอร์ต่างประเทศให้ไปชกที่ต่างแดน
ในปี 2004 บัวขาว ได้ขึ้นชก K-1 ครั้งที่ ในรายการ K-1 World MAX 2004 ที่จัดขึ้นที่กรุงโตเกียว ประเทศ ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนท์แข่งแบบแพ้คัดออก แม้จะลงแข่งเป็นครั้งแต่ บัวขาว ก็โชว์ความแข็งแรงเอาชนะคู่แข่งได้ 3 รวด โดยในรอบล้มแชมป์เก่าอย่าง มาซาโตะ จากญี่ปุ่น พร้อมแบ่งเข็ดขัดแชมป์มาครองได้ ชัยชนะที่แดนอาทิตย์อุทัยทำให้บัวขาวกลายเป็นกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในชั่วข้ามคืน
ในปี 2006 บัวขาว กลับมา K-1 อีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ก่อนจะทวงเข็มขัดแชมป์กลับมาได้สำเร็จ พร้อมสร้างสถิติเป็นนักสู้คนแรกที่คว้าแชมป์ K-1 ได้ถึง 2 สมัย
5 ปีต่อมา บัวขาว เบนเข็มกลับมาชกทัวร์นาเม้นท์มวยไทยอีกครั้งในรายการ ไทยไฟต์ อีกหนึ่งรายการที่ดังในระดับนานาชาติ เขาตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของตัวเองด้วยการคว้าแชมป์ รุ่น 70 กิโลกรัม ได้ถึง 2 สมัยติดต่อกัน
ซูเปอร์สตาร์นอกสนาม
ในแง่การศึกษา บัวขาว มีดีกรีเป็นถึงด็อกเตอร์ สำเร็จการศึกษาปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ปริญญาเอก) สาขาวิชายุทธศาสตร์ การพัฒนาภูมิภาค (กลุ่มการศึกษาและจัดการภูมิปัญญา) มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
ในขณะเดียวกันบนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ในอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ยังเป็นที่ตั้งของ “บัวขาว วิลเลจ” อาณาจักรแห่งการพักผ่อนครบวงจรของ “บัวขาว บัญชาเมฆ” นอกจากนี้ในฐานะประธานมูลนิธิบัญชาเมฆ เขาเป็นหัวเรือใหญ่ในการทำหน้าที่จิตอาสาในด้านต่างๆ
ล่าสุดไม่นานมานี้ยอดมวยไทย เพิ่งเข้ารับตำแหน่งบอร์ดบริหารของ สมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย พาทีมประสบความสำเร็จในซีเกมส์ 2021 ด้วยการคว้า 2 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 6 เหรียญทองแดง พร้อมทั้งยังนั่งตำแหน่งประธานพัฒนากีฬามวยเวทีราชดำเนินเพื่อยกระดับมวยไทยให้ไปสู่ระดับนานาชาติ
18 ปี หวนคืนสู่ราชดำเนิน
วันที่ 19 สิงหาคมนี้ บัวขาว บัญชาเมฆ กำลังจะหวนคืนสู่เวทีราชดำเนินอีกครั้ง น้อยคนนักจะได้เห็นซูเปอร์สตาร์นักมวยของเมืองไทยขึ้นชกบนเวทีระดับตำนาน โดยขึ้นชกกับ “โคตะ มิอูระ” นักสู้ MMA ทายาทของ “คิง คาซู” คาซึโยชิ มิอุระ นักฟุตบอลระดับตำนานของญี่ปุ่น ในกติกา โดจะขึ้นชกเป็นคู่ที่ 9 ซึ่ง 8 คู่ก่อนหน้านั้นอัดแน่นไปด้วยมวยไทยระดับคุณภาพ
สนใจแทงมวยออนไลน์ติดต่อได้ที่ LINE: @UFA-TH หรือ https://line.me/ti/p/@UFA-TH
ติดตามข่าวสารวงการมวยได้ที่ muay-th.com