ประวัติวังจั่นน้อย ส.พลังชัย ชายผู้กระหายชัยชนะ

ประวัติวังจั่นน้อย ส.พลังชัย ชายผู้กระหายชัยชนะ

ประวัติวังจั่นน้อย

ประวัติวังจั่นน้อย ส.พลังชัย ในอดีตถือว่าเป็นนักมวยเงินแสน เมื่อ 20 ปีที่แล้วถือว่าไม่ใช่น้อยๆ และ ไม่ได้ธรรมดาอย่างแน่นอน เจ้าตัวมีสถิติการชกนับตั้งแต่เริ่มชกมวยอาชีพแต่ไม่ได้มีการบันทึกไว้อย่างเป็นทางการ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าเจ้าตัวลงนวมแล้วกว่า 300 ไฟท์ และ ต้องบอกเลยว่านักมวยรายนี้แพ้ไปไม่ถึง 50 ไฟท์ด้วยซ้ำ ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จัก ประวัติวังจั่นน้อย ส.พลังชัย เขาเป็นใครมาจากไหน ไปติดตามพร้อมๆกันเลย

วังจั่นน้อย ส.พลังชัย มีชื่อจริงว่า นายอาภรณ์ โสภาพ มีชื่อเล่นว่า ภรณ์ ย้อนกลับไปเจ้าตัวเกิดในวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2510 ที่อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี เป็นบุตรของนายหยาด และนางบุญ โสภาพ จบชั้นอนุปริญญาจากโรงเรียนรัตนพณิชยการ และ เริ่มต้นเดินเข้าเส้นทางนักมวยตั้งแต่อายุได้เพียง 10 ขวบเท่านั้น

ซึ่งช่วงแรกๆเจ้าตัวตระเวนชกมวยแถวบ้านเกิดจนมีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง จึงตัดสินใจครั้งสำคัญอีกครั้งด้วยการเดินทางมายังเมืองหลวงของประเทศไทย ซึ่งมาอยู่ในสังกัดของ ทรงชัย รัตนสุบรรณ มีโอกาสขึ้นชกมวยหลายครั้ง จนมาเป็นที่รู้จักเมื่อ ชนะคะแนน นำพล หนองกี่พาหุยุทธ ได้ครองแชมป์มวยไทยรุ่นไลท์ฟลายเวท ของสนามมวยเวทีลุมพินี และฟลายเวท ถึง 4 สมัย ของเวทีเดียวกัน

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา วังจั่นน้อย ได้ตัดสินใจสละแชมป์ เพื่อขยับมาชกข้ามรุ่น ซึ่งเจ้าตัวก็สามารถทำได้ด้วยการคว้าแชมป์ รุ่นจูเนียร์เฟเธอร์เวทของสนามมวยเวทีลุมพินี 5 สมัย อีกทั้งในเวลานั้นได้ชกกับนักมวยชื่อดังมากมาย อาทิ สามารถ พยัคฆ์อรุณ, เจริญทอง เกียรติบ้านช่อง, ฉมวกเพชร ช่อชะมวง, สำราญศักดิ์ เมืองสุรินทร์, ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ, โอเล่ห์ เกียรติวันเวย์

สำหรับในเวลานั้นเจ้าตัวได้รับค่าตัวสูงที่สุดอยู่ที่ 350,000 บาทต่อไฟท์ โดยในไฟท์นั้นเจ้าตัวขึ้นชกกับ สามารถ พยัคฆ์อรุณ ผลปรากฏว่าสามารถเอาชนะไปได้ด้วยคะแนนตัดสินอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2532 ที่เวทีลุมพินี และหลังจากผลประกาศออกมาแล้ว สามารถ ได้ประกาศแขวนนวมบนเวทีทันที นอกจากนั้นยังได้รับรางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาเมื่อ พ.ศ. 2536 โดยในวันนั้นคู่นี้เป็นมวยประกอบรายการไฟท์ชิงแชมป์โลกมวยสากลให้กับ เมืองชัย กิตติเกษม กับเทรซี่ มาคาลอส เจ้าของตำแหน่งชาวฟิลิปปินส์

ทั้งนี้ วังจั่นน้อย เคยได้รับฉายาด้วยว่า ไอ้หมัด 33 วิ ซึ่งมาจากการที่เจ้าตัวสามารถเอาชนะน็อก นำขบวน หนองกี่พาหุยุทธ น้องชายของนำพล หนองกี่พาหุยุทธ ด้วยหมัดไปด้วยเวลาเพียง 33 วินาที เพียงยกที่หนึ่งเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการชกที่เร็วเป็นอย่างมากในเวลานั้น อีกทั้งเจ้าตัวยังได้รับฉายาจากสื่ออีกว่า ไอ้หนุ่มชีวาส สืบเนื่องจาก ชอบสังสรรค์เฮฮา กินเลี้ยงกับเพื่อนฝูงด้วยวิสกี้ยี่ห้อชีวาสรีเกิล โดยเฉพาะหลังชกเสร็จ และยังมีฉายาอื่นอีก เช่น เมธีหมัดตรง และ พระกาฬละโว้ อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม วังจั่นน้อย ตัดสินใจแขวนนวมอย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ. 2540 สาเหตุมาจากสภาพร่างกายเริ่มจะไม่ไหวแล้ว โดยย้อนกลับไปไฟท์สุดท้ายของเจ้าตัวก็แพ้คะแนนให้กับ แรมโบ้น้อย ช.ทับทิม หลังจากนั้นเจ้าตัวตัดสินใจย้ายไปช่วยพี่ชายดูแลค่ายมวยเพชรอาภรณ์ ได้ช่วงหนึ่งจึงตัดสินใจไปเป็นครูมวยไทยที่ประเทศฝรั่งเศส

พร้อมกันนี้ได้กลับไปขึ้นชกอีกด้วย เป็นระยะเวลา 2 ปี จึงตัดสินใจกลับมาประเทศไทย ประกอบอาชีพส่วนตัว และ ช่วยพี่ชายทำค่ายมวย ประสบความสำเร็จอยู่ระดับหนึ่ง โดยสร้างนักมวยชื่อดังขึ้นมาได้ส่วนหนึ่ง และได้เลิกในเวลาต่อมา ปัจจุบัน วังจั่นน้อยเป็นเทรนเนอร์อยู่ที่ค่าย ช.ห้าพยัคฆ์ ที่คลอง 8 อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี

สนใจแทงมวยออนไลน์ติดต่อได้ที่ LINE: @UFA-TH หรือ https://line.me/ti/p/@UFA-TH

ติดตามข่าวสารวงการมวยได้ที่ muay-th.com